การใช้กระแสไฟฟ้ากระตุ้นที่กล้ามเนื้อและเส้นประสาทถูกนำมาใช้ในสาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟูทั้งในด้านการรักษาการวินิจฉัยโรคและการพยากรณ์โรคว่าดีขึ้นหรือเลวลงอย่างไรภายหลังการให้การรักษาเป็นระยะ ๆ
โดยหลักการแล้วการเคลื่อนไหวของร่างกายอยู่ภายใต้อำนาจจิตใจเกิดขึ้นได้จากการมีคำสั่งจากสมองผ่านมาตามเส้นประสาทยนต์ ไปยังกล้ามเนื้อถ้ามีเหตุทำให้สมองหรือเส้นประสาทยนต์เสียไป กล้ามเนื้อก็ไม่สามารถเคลื่อนไหวตามความประสงค์ได้ อาทิเช่น การถูกยิงหรือถูกฟันจนเส้นประสาทขาดเป็นผลทำให้กล้ามเนื้อไม่ทำงานทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้เราเรียกภาวะนี้ว่าอัมพาตเมื่อเกิดเป็นอัมพาตขึ้นก็ต้องให้การรักษาตามสาเหตุนั้นกล่าวคือ ในกรณีเส้นประสาทขาดก็ต้องทำการผ่าตัดต่อเส้นประสาทที่ขาดเข้าที่เดิมในระหว่างรอการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อก็ต้องใช้กระแสไฟฟ้าชนิดกระแสตรงกระตุ้นผ่านกล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตด้วยความแรงที่พอเหมาะซึ่งประกอบด้วยแรงเคลื่อนกระแสและระยะเวลาที่ไฟฟ้าผ่านเป็นจังหวะ ๆ ที่พอดีจะทำให้กล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตหดตัวตามจังหวะที่กระแสไฟฟ้าผ่าน
การทำงานของกล้ามเนื้อด้วยการใช้ไฟฟ้ากระตุ้นจะช่วยชะลออัตราการลีบ เล็กและชะลอคุณสมบัติของกล้ามเนื้อให้คงไว้เพื่อรอเวลาให้ประสาทที่ต่อไว้ทำงานได้เองโดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะแรกของโรคขณะกล้ามเนื้อหดตัวและคลายตัวจากการกระตุ้นด้วยไฟฟ้าจะทำให้มีการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลืองดีขึ้นทำให้มีอาหารไปหล่อเลี้ยงส่วนนั้นมากขึ้นขณะเดียวกันกล้ามเนื้อได้มีโอกาสออกกำลังทำให้การลีบช้าลงเป็นการรอเวลาการงอกของเซลล์ประสาทยนต์เข้าไปตามปลอกของเส้นประสาทไปยังกล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตนั้น ๆ ซึ่งอัตราการงอกของเซลล์ประสาทเฉลี่ยแล้ว 1 มิลลิเมตรต่อวันการปล่อยให้กล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตอยู่เฉย ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อลีบและเปลี่ยนเป็นพังผืดอย่างรวดเร็วเป็นผลให้เซลล์ประสาทที่งอกไปถึงกล้ามเนื้อไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อที่เปลี่ยนสภาพเป็นพังผืดไปหมดแล้วให้ทำงานต่อไปอีกและครึ่งหนึ่งเมื่อกล้ามเนื้อเปลี่ยนสภาพตัวเองเป็นพังผืดแล้วจะไม่มีโอกาสกลับมาทำงานได้อีกเลยทำให้เป็นอัมพาตและพิการอย่างถาวรการรักษาด้วยการใช้ไฟฟ้ากระตุ้นสามารถนำมาใช้กับผู้ป่วยโปลิโอที่เป็นอัมพาตเพื่อรอการฟื้นตัวของเซลล์ประสาทยนต์ที่ยังเหลืออยู่ภายหลังการทำลายโดยเชื้อไวรัสและอัมพาตจากสาเหตุอื่น ๆ เพื่อรอการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อแทนที่จะปล่อยให้ลีบอย่างรวดเร็วแล้วเป็นพังผืดจนไม่สามารถฟื้นตัวได้อีกต่อไป